เช้าวันใหม่อากาศสดใส ท้องฟ้าในเมืองยอร์คยาการ์ตาใสมาก แอบคิดในใจ โชคเข้าข้างเราจริงๆ ไม่เจอฝนเลย เพราะอ่านรีวิวของหลายๆคนบอกว่าไปเดียงพลาโต้มักจะเจอฝน ชะ… วันนี้ฟ้าแจ่มมาก 6.30 เราเดินขึ้นมาชั้นบนสุดของโรงแรม Edu Hostel เพื่อมากินข้าวเช้า (ไม่น่าเชื่อโรงแรมราคาประหยัดมีอาหารเช้า) ซึ่งได้แก่ มาม่าผ้ด+ไข่เส้น และกาแฟร้อนนั่นเอง นั่งกินข้าวไปพลาง ชมวิวไปพลาง บ่นร้อนไปพลาง
7 โมงตรงลงมาเช็คเอาท์ พร้อมกับเจอคนขับรถที่เรานัดไว้มารออยู่แล้ว ตรงเวลาดีมาก พาหนะของเราวันนี้เป็นรถตู้เก่าๆ มีที่นั่งเหลือเฟือ ใครอยากนั่งตรงไหนก็ได้ แอร์ก็ไม่ค่อยเย็นเท่าไหร่ (มันเป็นความผิดเราเองที่เราบอกเค้าไปว่าอยากได้รถคันใหญ่ เพราะเรามากัน 6 คน ไม่อยากจะนั่งเบียด จริงๆ ให้นั่งเบียดใน Toyota Innova ดูจะดีกว่านี้) จัดการขนกระเป๋าขึ้นรถ พร้อมกับบอกคนขับว่าจะไปไหนบ้าง เราจะไป 2 ที่ คือ วัดฮินดู กับทะเลสาบ Warna
นั่งรถผ่านความวุ่นวาย ใช้เวลา 4 ชั่วโมง เพราะรถติดเป็นระยะ เพราะมีการซ่อมทาง ทำให้ถนนเดินรถได้ทีละทาง บางช่วงก็ผ่านตลาด ผู้คนเดินกันแบบไม่เกรงกลัวรถ เดินกันกลางถนน รถโดยสารสาธารณะจอดไม่เป็นที่เป็นทาง คิดจะหยุด จะจอดตรงไหนก็ตามใจ
ในที่สุดเราก็มาถึงที่ราบสูงเดียงแล้ว (ที่ราบสูงเดียงตั้งอยู่ในเมือง Wonosobo ที่คนขับพยายามสอนเราออกเสียงหลายครั้งมากๆ) จากทางเข้าเขตที่ราบสูง เราใช้เวลาเดินทางอีกราว 30 นาทีกว่าจะถึง Telaga Warna หรือ The colorful lake ระหว่างทางลุงคนขับก็ชี้พืช ผัก ผลไม้ นานาชนิดที่ปลูกระหว่างทางให้เรารู้จัก เข้าใจบ้าง ไม่เข้าใจบ้้าง นอกจากลุงจะแนะนำผักผลไม้แล้ว ลุงก็ยังแวะจอดรถระหว่างทางให้เราได้ถ่ายรูปด้วย แต่เสียดายฝนตกพรำๆ ทำให้ความหวังที่จะเห็นทะเลสาบสองสี แลดูเลือนลาง 😦
นั่งรถจากจุดพักรถอีกแปปเดียวก็ถึงทะเลสาบ ค่าเข้าทะเลสาบคนละ 6,000 IDR ถึงฝนจะไม่ตกแล้ว แต่แดดก็ไม่ออก เราก็เลยได้ชื่นชมความงามของทะเลสาบแบบครึ่งๆ กลางๆ เพราะมันควรจะสวยกว่านี้ แต่เอาหน่ะ การมาเที่ยวก็เป็นแบบนี้ จะให้สมหวังดังใจนึกตลอดคงเป็นไปไม่ได้ เลยชื่นชมความงามในแบบที่มันเป็น ก็สวยไปอีกแบบ 🙂
ใช้เวลาเดินวนรอบทะเลสาบ สำรวจทางเดินรอบๆ ดูมอส เฟิร์นที่ขึ้นตามทางเดิน บ้างก็ดูดอกไม้ ดูต้นพริก จนพอใจแล้ว ก็เดินออกมา เจอคุณลุงคนขับจอดรถรออยู่หน้าประตูทางเข้าทะเลสาบ และก่อนออกเดินทางต่อ คุณลุงก็โดนเรียกค่าที่จอดรถจากผู้คุมแถวนั้นไปตามระเบียบ
ตอนนั้นฝนเริ่มตกหนักขึ้น แล้วเวลาก็เลยเที่ยงมาแล้ว เราเริ่มบ่นหิวข้าว แต่ลุงบอกว่าให้เราไปเที่ยววัดฮินดูก่อน ระหว่างทางมีซากบ้านที่ถูกภูเขาเมราปิระเบิดอยู่ ลุงถามว่าอยากแวะวนดูรึเปล่า เราก็ตอบไปว่าไม่ เพราะเริ่มหิวแล้ว อีกอย่างฝนตกเยอะขึ้น ทำให้หมดอารมณ์ไปนิดๆ
มาถึงวัดฮินดู (จริงๆ มีวัดฮินดูจำนวนมากอยู่บนที่ราบสูงเดียง แต่ก็พังทลายไปมาก เพราะแผ่นดินไหว ทำให้เหลือแค่ 8 วัดเท่านั้นเอง) จุดที่เราไปเที่ยวกันเรียกว่า Dieng Temple complex
จากจุดจอดรถต้องเดินเข้าไปประมาณ 300 เมตร ภาพแรกที่พวกเราเห็น และทำให้ตกตะลึงมาก คือ !!!! เราเจอเทเลทับบี้!!! เทเลทับบี้นั่งเล่นอยู่บนสนามหญ้า 2 ตัว… ณ จุดนั้น วัดฮินดูอะไรไม่สนใจ เราก็วิ่งอย่างร่าเริง พร้อมกับตะโกนออกไปว่า “มาเล่นกันเถอะๆ” ไปหาเทเลทับบี้ เจ้าเทเลทับบี้ทั้งสองเหมือนจะรู้ตัวว่าเหยื่อมาแล้ว ลุกขึ้นยืนทำท่าร่าเริงกว่าเก่าเตรียมพร้อมรับเรา
เราวิ่งเข้าไปถ่ายรูปด้วยอย่างสนุกสนาน ซักพักเดียวกลุ่มนักท่องเที่ยวกลุ่มอื่นก็หันมาสนใจและมาถ่ายรูปกับเทเลทับบี้ทั้งสองด้วย พอถ่ายเสร็จเราก็ให้เงินเค้าไปนิดหน่อยเป็นน้ำใจ
เริงร่าอยู่กับเทเลทับบี้ซักพักก็หันกลับมาสนใจโบราณสถานที่ตั้งอยู่ตรงหน้า บ่องตง…เทเลทับบี้ขโมยซีนวัดฮินดูสุดๆ เดินดูซักพักเราก็เดินกลับไปที่รถ
แวะซื้อไม้บาติก (ไม้ที่มีลายเหมือนผ้าบาติก) จากชาวบ้านแถวนั้นกลับมาไว้เป็นที่รองแก้ว
แวะชิมและซื้อ Carica ผลไม้ที่มีหน้าตาเหมือนมะละกอ แต่มีรสชาดเหมือนมะละกอผสมมะม่วง อร่อยดี เลยซื้อกลับมาเมืองไทยด้วยเลย
ฝนยังคงตกมาเรื่อยๆ เราเริ่มหิวมากขึ้น เลยบอกให้ลุงคนขับพาไปร้านอาหารด่วน ลุงเลยพาไปกินร้านในเมือง Wonosobo เป็นเหมือนร้านข้าวแกงบ้านเรา มีอาหารปรุงเสร็จพร้อมรับประทานเรียงอยู่เต็มตู้ให้เราเลือก มื้อนี้กินกับข้าวหลายอย่าง สิ่งที่เราได้เรียนรู้จากร้านนี้ คือ พริกสดกัดกินได้ ไม่เผ็ด
มองดูนาฬิกา บ่ายโมงเศษ บอกลุงรีบบึ่งรถด่วนเลย พุ่งตรงไปบุโรพุทโธเลย เพราะอยากไปให้ทัน 5 โมงเย็น (บุโรพุทโธเปิด 6.00-17.00 น.) อยากไปเก็บบรรยากาศพระอาทิตย์ตกดิน ระหว่างทางฝนตกหนักมาก แต่ลุงก็ยังซิ่งสุดๆ ผลที่ออกมา… กันชนรถลุงแตก เพราะกระแทกอย่างแรงกับถนน แอบสงสารลุงนิดๆ แต่ลุงก็ไม่ว่าอะไรเลย ไปส่งเราที่โรงแรมยอดฮิตของคนไทย และทัวร์ไทย Manohara hotel เป็นโรงแรมอยู่ในบริเวณเดียวกับบุโรพุทโธเลย (เส้นใหญ่สุดๆ) ถ้าพักโรงแรมนี้จะตั๋วเข้าออกบุโรพุทโธได้ฟรี (ปกติ 20$)
ไปถึงโรงแรมเค้าต้อนรับอย่างดีด้วย welcome drink พร้อมๆ กับมีคุณลุงคุณป้าเล่นดนตรีพื้นเมืองให้ฟัง พนักงานให้กุญแจและคูปองสำหรับอาหารเช้า ตั๋วเข้าบุโรพุทโธ และสำหรับไว้ดูหนังฟังเพลง
เรารีบเอาของไปเก็บแล้วรีบเดินไปยังบุโรพุทโธ แอบดีใจที่ประตูรั้วยังเปิดอยู่ แม้เวลาจะ 5 โมงกว่าๆ แล้ว แต่พอไปถึงกลางทาง ก็รู้ว่าปิดแล้ว เลยได้แต่ถ่ายรูปและมองบุโรพุทโธจากมุมไกล
เมื่อพลาดหวังจากการขึ้นบุโรพุทโธตอนเย็น เราก็เปลี่ยนไปเดินตลาดแทน ซื้อขนมปังปิ้ง กับขนมถังแตกมากินเล่น อร่อยดี และอ้วนมาก เพราะอุดมไปด้วยน้ำตาล ชีส นม ช็อคโกแลต
จบไปอีกวันกับความรู้สึกหน่วงๆ สนุกแต่ยังไม่สุด ขอให้พรุ่งนี้อากาศสดใสด้วยเถิดดดด…. เราจะฟินกับบุโรพุทโธ
พี่สนใจจะไป Dieng plateau แต่ยังหารถเช่าไปไม่ได้ เลยอยากจะถามว่าน้องพอจะมีที่อยู่ หรือ email ของคนขับรถไหมครับ ขอบคุณครับ
LikeLike
เราติดต่อผ่านคนขับรถที่มารับเราไปโบรโม่อีกทีค่ะชื่ออารีฟ อารีฟก็ติดต่อเพื่อนเขาให้อีกทีค่ะ เมลอารีฟอยู่ในลิ้งค์ตอนไปโบรโม่ค่ะ
LikeLike