1ในประเทศที่ถูกพาดผ่านด้วยเทือกเขาแอลป์อันยิ่งใหญ่ ก็คือสวิตเซอร์แลนด์ ประเทศที่มีพื้นที่ราบเพียงแค่20% หลับตานึก็คงงงๆว่าแล้วเทือกเขาทั้งหลายที่มากมายมีคนอยู่ไหมน๊อออออ
ที่สวิตเซอร์แลนด์มีแนวภูเขายอดสูงสูงเกิน 3000ม.จากระดับทะเลอยู่มากมายเลยค่ะ มีหิมะปกคลุมบนยอดตลอดปี ครั้งนี้มีโอกาสมาที่ยอดเขาที่สำคัญอีกที่นึงในสวิตเซอร์แลนด์ คือ ยอดเขาทิตลิส ที่อยู่ในเมือง Engelberg เมืองเล็กๆน่ารัก
ได้ยินมาว่าชื่อเมือง Engelberg มีที่มาจากคำว่า แองเจิล ที่แปลว่านางฟ้าค่ะ มาถึงแล้วจริงๆก็สมชื่อเลยค่ะ หมู่บ้านเล็กๆในเมืองนี้ติดกับภูเขา มีธารน้ำที่ไหลมาจากบนยอดเขาผ่านหมู่บ้าน น้ำใสมากเพราะมาจากน้ำแข็งและหิมะละลาย อากาศเย็นกำลังดีในช่วงซัมเมอร์แบบนี้ ช่วงเดือนก.ค.นี้ ด้านล่างเขาก็ประมาณ 15องศาได้ค่ะ บนยอดเขาก็แล้วแต่วันค่ะ 0องศา ถึงติดลบประมาณ10องศา
ได้เดินทางมาทางรถบัสจากเมืองดิจองประเทศฝรั่งเศสมายัง Busel เข้า Zurich แล้วก็เข้าที่ Engelbergค่ะ ใช้เวลาเดินทาง 4ชม.ค่ะ
เข้ามาถึงในเมืองEngelberg ก็จะพบหมู่บ้านเล็กๆ ส่วนใหญ่ก็ทำเกษตรกรรมกันค่ะ มีเลี้ยงสัตว์ด้วย เช่นวัว แกะ แต่ส่วนใหญ่วัวจะเยอะมาก เนื่องจากได้ยินเสียงกระดิ่งที่ห้อยคอวัวดังก้องกังวานมากๆ เสียงเพราะค่ะ กระดิ่งที่นี่ไม่ธรรมดา อันใหญ่มาก ทุกอันทำจากทองเหลือง เสียงเลยดังสุดๆ
รถผ่านหมู่บ้านไปโซนโรงแรมค่ะ ต้องขึ้นเขาไปอีกนิดนึง มองลงมา หมู่บ้านน่ารักจริงๆ เห็นเล็กๆแค่นี้ ลานจอดรถทำมากว้างมากกกกกกกก
เข้าพักที่โรงแรม WALDEG ค่ะ โรงแรมนี้ได้รางวัลในปี 2013ด้วยนะ วิวโรงแรมก็เห็นเทือกเขาเลยค่ะ มองๆลิบๆก็เห็นเห็นยอดทิสลิต กับแนวกระเช้าที่เราต้องนั่งขึ้นไปอีก ลองเข้าไปดูในเวบดูนะคะ http://www.waldegg-engelberg.ch/
วิวตรงระเบียงห้อง มันน่านอนไหมล่ะ ฮี่ๆๆ
กุญแจโบราณนิดๆ คงไม่มีจะเอาไปปั๊มแน่ๆ อิอิ
ของที่ระลึกของประเทศนี้ไม่พ้นมีดพับค่ะ มีหลากหลายมากๆ ตั้งแต่อันพกพาเล็กๆจนไปถึงอันใหญ่สำหรับเดินป่ากันเลย ราคาส่วนใหญ่เท่าที่ดูนะคะจะเท่ากันแทบทุกร้าน ส่องดูในโรงแรมไว้เป็นราคาตั้งต้น ไปดูในเมืองใหญ่ก็ยังราคาเท่ากันเลยค่ะ แต่ในร้านเมืองใหญ่ๆจะรับสลักชื่อให้ด้วยนะคะบริการฟรีๆ เลยไปซื้อในเมืองลูเซิร์นมา 1 อันค่ะ เป็นร้านคนไทย พี่เขาเลยลดให้ 10เปอร์เซนต์แถมสลักชื่อให้ฟรีอีกต่างหาก ขอบคุณเลยค่ะ ใจดีมากๆ
เนื่องจากมาตอนซัมเมอร์ ตอนสี่ทุ่มที่นี่ก็ยังสว่างอยู่เลยค่ะ ไปนั่งจิบไวน์ที่ห้องอาหารดูวิวเทือกเขา ชิลๆกันไป ได้เวลาเข้านอนเตรียมพร้อมสำหรับการขึ้นเขาในวันรุ่งขึ้น ^^
เช้าวันใหม่
ตื่นแต่เช้ามาทานอาหารเช้าที่โรงแรม แล้วแวบออกมาเดินเล่นแถวๆโรงแรมค่ะ เก็บวิวรอบๆตัว สูดอากาศให้มันสดชื่นก่อนจะขึ้นไปที่สูง
เอาเลนส์เทเลส่องจากโรงแรมพอมองเห็นกระเช้านิดๆค่ะ
เิดนทางออกจากโรงแรมไปที่จุดปล่อยกระเช้า การจะขึ้นไปถึงยอดทิตลิส จะต้องใช้ทั้งหมดสามกระเช้าค่ะ มีจุดเปลี่ยนกระเช้าสองจุด ในจุดที่สอง ช่วงฤดูหนาวจะเปิดให้บริการเล่นสกีค่ะ เล่นลงมาถึงด้านล่าง แล้วก็นั่งกลับไปจุดที่สองเพื่อเล่นลงมาใหม่
ก่อนขึ้นกระเช้าก็มีร้านขายของ เครื่องแต่งกายกันหนาวมากมายค่ะ
ด้านข้างจะมีธารน้ำเล็กๆไหลผ่านค่ะ สวยมากๆ
บัตรขึ้นกระเช้าตองพกติดตัวตลอดนะคะ เนื่องจากต้องเปลี่ยนกระเช้า ต้องทำการเอาบัตรไปสแกนก่อนเข้าประตูค่ะ
ขึ้นกระเช้าก็นั่งดูวิวกันไป นั่งข้างในร้อนเลย ลมไม่เข้าค่ะ กระเช้าๆค่อยๆเคลื่อนไป ส่วนเราก็ดันใส่เสื้อกันหนาวซะหนาเชียว เนื่องจากวันนี้เช๊คอุณหภูมิบนยอดแล้วอยู่ที่ลบหกองศาค่ะ จริงๆขึ้นไปถึงแล้วค่อยใส่ก็ได้นะ จุดเปลี่ยนกระเช้ามีจักยานให้เช่าด้วยนะคะ
จุดสุดท้ายเราจะนั่งกระเช้าที่สามารถหมุนรอบตัวได้ดูวิว 360องศาเลยค่ะ ที่นี่เป็นกระเช้าตัวแรกในโลกนะคะที่ทำเป็นแบบหมุนได้ 360องศา ดีมากๆเลย จะได้ไม่ต้อวิ่งไปมาด้านนู้นด้านนี้เพื่อดูวิวมุมอื่น ชอบมากค่ะ หมุน1รอบ ก็ถึงยอดพอดี รวมเวลาที่นั่งกระเช้าตั้งแต่ด้านล่างใช้เวลาประมาณ 40นาทีค่ะ
ตรงจุดเปลี่ยนกระเช้าที่สองมีแอ่งน้ำด้วยนะคะ หรือว่าที่มีจักรยานให้เช่า ก็เอาไว้ขี่เล่นแถวๆนั้น
ขึ้นไปถึงเข้าไปที่ห้องอาหารเลยค่ะ ฮ่าๆ เจอไอติมอันดับแรกทำโคนกันสดๆ หอมมากกกกกกกก เลยเล็งไว้แล้วจะกลับมากินก่อนที่จะลงเขา
มาม่ามาไกล ….หรือว่าคนไทยมาเยอะจนต้องมีไว้เลย ราคา 6.50 ฟรังค์ ก็คูณสามสิบเข้าไปค่ะ ราคานี้ต้องซดจนหยดสุดท้ายเลยทีเดียว
ก่อนจะออกไปเล่นหิมะด้านนอก ก็แวบเข้ามาดูธารน้ำแข็งที่ไม่ละลายมาเป็นร้อยๆปีแล้วค่ะ มีภาษาไทยด้วยอ่ะ นึกในใจ….เราเป็นมหาอำนาจสิเนี่ย ฮ่าๆ
ด้านในหนาวเกิน มีปิดบางส่วนปรับปรุงทางเดินด้วยค่ะ
ถึงเวลาออกมาเหยียบหิมะซะที วันนี้แดดออกโชคดีมากเลยค่ะ ฟ้าใสเชียว แนะนำอย่างนึงว่าควรใส่หุ้มข้อหรือบูทมาเลยดีกว่าค่ะ หิมะจะได้ไม่เข้าไปละลายที่รองเท้าให้เปียก ตอนกลับเข้ามาในตึก ถุงเท้าเปียกไปนิดนึง ดีที่พกมาด้วย รู้ว่ารองเท้าตัวเองไม่เหมาะกับพื้นหิมะแน่
เดี๋ยวเราจะเดินไปที่ Clif walk กันค่ะ เป็นสะพานเหล็กให้เดินเสียวๆเห็นด้านล่างด้วย แอบสูงด้วย
เดินเล่นที่ลานหิมะกันชิลๆเลยค่ะ มาตอนเช้าช่วง9โมงคนยังน้อยนะคะ ตอนขากลับช่วง11โมง คนจีนเพียบ มาเป็นกองทัพเลย
มีอีกจุดที่จะลงไปเล่นห่วงยางไหลไปตามทางลาดค่ะ ต้องนั่งกระเช้าห้อยขาลงไปอีกต่อนึง ที่ตึก Ice Flyer ค่านั่ง 12 ฟรังค์ค่ะ ขาขึ้นเขาจะถ่ายรูปเรานั่งกระเช้าขึ้นมาด้วย ถ้าอยากได้รูปก็จ่ายไปอีก 12ฟรังค์ค่ะ(อันนี้ไม่บังคับ)
ชอบเดินสะพานแบบนี้อยู่แล้ว ลุยเลยยยยย
พร้อมนั่งกระเช้าละ
มาเล่นห่วงยางกัน
นั่งไหลลงไปด้านล่างกันค่ะ แล้วก็ลากห่วงขึ้นมา จะเล่นกี่รอบก็ได้ตามสะดวก เราเล่นจนเหงื่อออกเลย เสื้อกันหนาวไม่ใส่มันละ
ฝากของก่อนเล่นค่ะ ไม่มีหาย
พร้อมลุย จะมีเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกให้ค่ะ ปล่อยตัวทีละคน จะได้ไม่ชนกันเกิดอุบัติเหตุ ว่าแต่เจ๊เขาไม่หนาวเหรอ…
ได้เวลาอันสมควร หิวข้าวแล้ววววว
คนเริ่มเยอะแล้วเห็นไหมๆๆ
ได้เวลาลงเขาละ ดูวิวกันเพลินๆอีกรอบ
เห็นวัวเยอะมากค่ะ กระดิ่งใหญ่ๆตรงคอใหญ่มาก เห็นไหมๆๆ เลยเอาตัวเองออกไปนอกกระเช้าค่ะ ฟังเสียงกระดิ่ง เพราะก้องกังวาลมากๆ
แต่ละกระเช้ามีธงแต่ละประเทศด้วยค่ะ เจอไทยแลนด์พอดีเลย ^^
จบทริปเที่ยว Mount Titlis แบบเต็มอิ่ม…