มาเที่ยวบาเซิลแบบเฟลๆ ฝนยังคงโปรยปรายเป็นระยะ มาวันแรกก็โชคร้ายเจอแต่ฝน เสื้อกันฝน ร่มก็ไม่ได้เตรียมมา (นี่เราพลาดเอง เพราะยังไม่ได้เอาออกจากกระเป๋าเดินทาง) แต่เอาหน่ะ… มาเที่ยวก็ต้องทำใจ เรากำหนดอะไรไม่ได้ ตัดสินใจเดินหน้าเที่ยวต่อ นั่งรถไฟมุ่งตรงมายังเมือง Basel
เมือง Basel เมืองใหญ่อันดับ 3 ของสวิตเซอร์แลนด์ เมืองที่มีพรมแดนติดกับฝรั่งเศสและเยอรมนี ทำให้เป็นศูนย์กลางของทั้ง 3 ประเทศไปโดยปริยาย ผู้คนเยอะแยะมากมายเดินกันคล่องแคล่ว เมืองก็คับคั้งไปด้วยรถยนต์และรถเมล์ ด้วยความเจริญนี้เอง ทำให้ไม่ได้เห็นสถาปัตยกรรมอะไรมากมาย มีจุดเด่นก็ตรงตึกศาลาว่าการ และโบสถ์ประจำเมือง (Basler Munster) และสะพานหินข้ามแม่น้ำไรน์เท่านั้นเอง
ออกจากสถานีรถไฟ ก็ขึ้นรถบัสไปลงบริเวณศาลาว่าการเลย ตึกสีแดงมาก แดงจริงๆ โดดเด่นอยู่ตึกเดียว กำลังเดินเล่นถ่ายรูปซักหน่อย ฝนก็เริ่มโปรยปรายมาเบา ทำให้รีบวิ่งเข้าไปในศาลาว่าการ
เดินเข้าไปปุ๊ป เจอหนุ่มสวิสพุ่งตรงเข้ามาหา พร้อมกับถามว่าจะสะดวกไหมถ้าให้ตอบแบบสอบถามหน่อย ด้วยความที่ว่าเคยเป็นคนเก็บแบบสอบถามก่อน จึงอยากจะช่วยเหลือ จึงตอบโอเคไป คิดว่าคงทำนิดๆ ไม่มากมาย อีกอย่างก็หลบฝนไปพลางๆ ด้วย ที่ไหนได้!!! พอเห็นแบบสอบถามเกี่ยวกับการท่องเที่ยวเท่านั้นหล่ะ ลมจะจับ… เยอะมาก ตัวหนังสือก็เล็กมาก ถามละเอียดมาก นี่มันคืออะไร! ทำไปใช้เวลาเกือบ 20 นาที พอทำเสร็จก็ได้ชอคโกแลตของ Frey แท่งใหญ่มาคนละแท่ง เหอะๆ เลยทำให้ไม่มีเวลาเที่ยวชมอะไรด้านในเล้ยยยยย ได้รูปมาแค่เนี่ยหล่ะ เพราะเจ้าแบบสอบถาม
เดินออกมาจากศาลาว่าการ ก็เดินวนไปย่านชอปปิ้งสักหน่อย และวนกลับมาขึ้นรถบัสกลับไปทางสถานีรถไฟ เพื่อไปโบสถ์ประจำเมือง ลงรถปุ๊ป ฝนตกมาเลย ฟ้ากลั่นแกล้งใช่ไหมคะ?!!! เดินไปพลางถามทางไป คนสวิสนี่ช่างใจดีมาก ถามใครก็เต็มใจตอบ และภาษาอังกฤษเป๊ะเวอร์
เดินไปตามคำบอกไม่นานก็เจอโบสถ์แล้วค่ะ รีบวิ่งไปหลบฝนก่อน
พอฝนเริ่มเบาหน่อยก็รีบวิ่งเข้าไปในโบสถ์ค่ะ คนเงียบมาก เป็นเพราะฝนตกรึเปล่า ทำไมไม่มีนักท่องเที่ยวเลย…
นั่งชมความงาม และสงบจิตใจไปกับความเงียบสักพักก็ออกมาตะลุยฝนกลับไปที่สถานีรถไฟค่ะ สรุปว่าวันแรกของทริป เปียกไปกับฝน วันแรกเลยยังไม่ค่อยอินกับสวิสเท่าไหร่
พรุ่งนี้ขอให้เป็นวันที่แดดดีๆ ด้วยเถอะ….. นั่งรถไปเอากระเป๋าในล็อคเกอร์ที่ Bern และต่อรถไฟไป Interlaken