เช้าวันนี้ดูอากาศสดใสกว่าเมื่อวานนิดหน่อย… แอบเสียดายเล็กๆ แต่ไม่เป็นไร เดินทางไปเที่ยวตามแผนของเราต่อไป อย่าไปเสียดายอดีต… วันนี้เราวางแผนจะนั่งรถไฟชมวิว ด้วยการนั่งรถไฟสาย Golden pass ชมวิวไปเรื่อย (Golden pass line เริ่มจาก Zweisimmen ไปถึง Montreux) รถไฟจะมีกระจกบานใหญ่เป็นพิเศษ ทำให้เราเห็นวิวได้กว้างขึ้นกว่าเดิม (แต่กระจกเปิดไม่ได้นะคะ) และมีที่นั่ง VIP จะได้นั่งหัวขบวน ทำให้เห็นวิวแบบเต็มๆ ด้วย (ต้องจองล่วงหน้า และเสียค่าจ่่่ายเพิ่มเติม)
เว็บไซต์ Golden pass line http://www.goldenpass.ch/?Language=EN
นั่งกินลม ชมวิว จริงๆ ใช้เวลาเดินทางนานพอสมควร วันนี้แดดดี สลับกับมืดเป็นบางช่วง ช่วงที่แดดดีนี่… ร้อนสุดๆ เพราะกระจกกว้างๆ แดดส่องเต็มๆ
ใกล้ถึงเมือง Montreux แล้ว ช่วงใกล้ถึงเมือง จะเห็นไร่องุ่นเพียบเลยหล่ะ แต่จะถ่ายรูปมาก็ค่อยข้างลำบาก เพราะเงากระจกสะท้อนดีเหลือเกิน เลยได้มาแต่รูปวิวเมือง Montreux
ถึงสถานี Montreux ก็เดินตรงไปริมทะเลสาบ Geneva เลยค่ะ เดินเลียบทะเลสาบไปเพื่อไปท่าเรือ เพราะเราจะล่องเรือไปเที่ยวปราสาท Château de Chillon มีสวิสพาสก็นั่งเรือฟรีไปโลด ค่าเข้าปราสาทก็ฟรีค่ะ ก่อนอื่นต้องมาดูรอบเรือก่อนค่ะ เรือก็มีหลายเส้นทางนะคะ ดูดีๆ มีเรือไปทางปราสาท และเรือไปทาง Vevey
เช็คตารางเดินเรือได้ที่ http://www.cgn.ch/en-gb/accueil.aspx
วิวระหว่างล่องเรือ
เรือแล่นไม่นาน เราก็เห็นปราสาท Château de Chillon แล้ว
มาถึงแล้วค่ะ…. Château de Chillon ปราสาทในสวิสก็ไม่ได้ใหญ่โตอะไร เรียบๆ ง่ายๆ
เดินไปโชว์บัตรเบ่ง (สวิสพาส) ให้เจ้าหน้าที่ และเราก็เข้าได้ฟรีเลย เข้าไปปุ๊ป เจอด่านขายของก่อนเลยค่ะ
แต่ละทาง แต่ละห้อง แต่ละส่วนจะมีเลขกำกับไว้ ใครจะเดินตามเลขก็ได้ หรือเดินมั่วๆ แบบเราก็ได้ไม่ว่ากันค่ะ
เดินไปเจอคุกก่อนเลย เป็นคุกที่วิวดีเชียวแหละ แต่ให้ดียังไงก็คงไม่อยากอยู่เนอะ
ถัดจากคุก เราก็เริ่มไต่ปราสาท เดินขึ้นบันไดไม้สูงชันและแคบมาก เสียวกลิ้งตกอยู่เหมือนกัน เดินขึ้นบันไดมา ก็จะเจอระเบียงแคบๆ แบบนี้
แล้วก็ต้องเดินขึ้นบันไดอีก หลายสิบขั้นเลยกว่าจะถึงยอดหอคอย ถ่ายจากบนยอดหอคอย ก็จะได้วิวสวยๆ ค่ะ กว่าจะได้วิวสวย ต้องทดสอบความฟิตของร่างกายไปในตัวด้วย
เดินเล่นเสร็จ เราก็ย้อนขึ้นไปทางถนน เพื่อไปนั่งรถบัสไปเมือง Vevey ค่ะ ถ้าไม่แน่ใจว่าต้องนั่งบัสสายไหน แนะนำว่าถามแม่ค้าร้านตรงหน้าปราสาทได้ ใจดีมาก หรือไม่ก็ถามเจ้าหน้าที่ขายตั๋วก็ได้
นั่งบัสประมาณ 20-30 นาที ชมวิวเมืองไปด้วย ก็ถึงจุด landmark ของเมือง Vevey แล้ว เอาจริงๆ นะคะ จำชื่อสถานีรถบัสไม่ได้ แต่ลองพยายามมองไปทางด้านทะเลสาบ ก็พอจะเดาได้ค่ะ ว่าจะต้องลงตรงไหน ลองวัดดวงลงดู แล้วเดินลัดเลาะริมทะเลสาบไป
เดินไมานานเราก็เจอแล้ว…. landmark ของเมืองเล็กๆ อย่าง Vevey คือ…. ส้อมปักทะเลสาบ ฮ่าๆๆๆ
นอกจากส้อมแล้ว หันกลับมาเราก็จะเจอ Charlie Chaplin รอถ่ายรูปอยู่
ถ่ายรูปเล่น นั่งพักผ่อนหย่อนใจริมทะเลสาบ Geneva ได้สักพัก ฟ้าเริ่มมืดมาอีกแล้ว อัยยะ…. ดวงฉันมากับฝน เลยรีบเดินไปที่สถานีรถไฟ เพื่อต่อไป Lausanne ตอนแรกก็แอบลังเลว่าจะไปดีรึเปล่า เพราะฝนเริ่มตกนิดๆ แล้วเหมือนกัน แต่ไหนๆ ก็มาแล้ว เลยแวะไปสักหน่อย
จากสถานีรถไฟ Lausanne ต่อรถใต้ดินไปแถวท่าเรือค่ะ
เอาจริงๆ นะ มา Lausanne เริ่มทำให้นึกถึงฝรั่งเศส บรรยากาศเหมือนฝรั่งเศสมาก คนก็หน้าตาออกทางฝรั่งเศส ภาษาก็ฝรั่งเศส ทำให้ความระวังตัวต่อมิจฉาชีพเริ่มเกิดขึ้น
นั่งเล่นแถวท่าเรือสักพักก็กลับแล้ว เพราะเริ่มเย็น กลัวว่าจะกลับโรงแรมดึก อีกอย่างก็เริ่มเหนื่อยแล้วด้วย ฝนก็ทำท่าจะตก ก่อนกลับแวะถ่ายกับการนับถอยหลังสู่โอลิมปิคซะหน่อย
วิวระหว่างทางกลับโรงแรม
จบวัน… จบทริปนั่งรถไฟชมวิวสาย Golden pass ไปอย่างมึนๆ วันนี้เรียกได้ว่าเป็นวันนั่งรถไฟค่ะ นั่งรถไฟยาวนาน แต่ที่ดีก็คือ วิวสวยๆ ระหว่างทาง มันสวยจริงๆ สมกับเป็นทริปกินลม ชมวิวอย่างแท้จริง ถ้าใครชอบนั่งทอดอารมณ์ชมวิว ไม่ควรพลาดรถไฟสานนี้เลยค่ะ รับรองว่าฟิน โดยเฉพาะชั่วโมงแรกของการนั่งรถไฟ ตื่นเต้นตลอดทาง หันซ้ายขวาไม่หยุด มองไปทางไหนก็สวย