ตื่นเช้ามาอากาศเย็นๆ ท้องฟ้าไม่เปิด แต่ก็ไม่ได้ครึ้มมากมาย รีบลงไปเช็คที่เคาท์เตอร์เกี่ยวกับอากาศบนยอดจุงฟราว ซึ่งจริงๆ เราสามารถตรวจสอบได้ด้วยตัวเองที่เว็บ (http://www.jungfrau.ch/tourismus/reiseinfos/webcams/winter-webcams/) จะเห็นภาพแบบ real time เลยค่ะ เพราะเป็นกล้องเว็บแคมที่เค้าติดตั้งไว้ ถ่ายแบบ 360 องศากันเลยทีเดียว แต่เพื่อความแน่ใจเราก็ปรึกษาที่เคาท์เตอร์โรงแรมหน่อยในฐานะคนพื้นที่ พนักงานก็ตอบมาอย่างน่ารักว่าวันนี้อาจจะมีฝนและหิมะ พรุ่งนี้ก็เหมือนกัน เค้าก็ไม่แน่ใจว่าวันไหนจะดีกว่ากัน (เพราะเราบอกเค้าไปว่าเรามี 2 วัน เลือกให้ทีว่าไปวันไหนดี) เราดูภาพจากเว็บแคมก็พอจะโอเค เลยตัดสินใจขึ้นกันวันนี้แหละ การไปท่องเที่ยวก็ต้องมีวัดดวงกันบ้าง สถานที่เดียวกันต่างเวลา บางทีเราอาจจะได้เจออะไรที่แปลกใหม่กว่าคนอื่นก็ได้… คิคิ ปลอบใจตัวเอง
รีบแต่งตัวออกจากโรงแรม มุ่งตรงไปยังสถานีรถไฟ Interlaken Ost เพื่อนั่งรถไฟต่อรถรางไปยังจุงฟราว… ทีนี้จากรูปด้านบน จะเห็นว่าเราไปจุงฟราวได้สองทางค่ะ ทางหนึ่งคือ ขึ้นไปทาง Grindelwald อีกทางเป็นทาง Lauterbrunnen เราตัดสินใจขึ้นทาง Grindelwald ลงทาง Lauterbrunnen เพราะขากลับจะได้แวะเที่ยวเมือง และนั่งกระเช้าต่อไป Schilthorn ด้วย อันนี้คือ แผนที่เตรียมไว้ค่ะ (เราวางแผนซื้อตั๋วขึ้นจุงฟราวมาจากเมืองไทย โดยซื้อบัตรขึ้นในราคา 99CHF มาจากไทยเลย อันนี้เป็นราคาที่ได้รับส่วนลดจาก swiss pass แล้วค่ะ ราคาตั๋วของตัวแทนขายแต่บริษัทราคาไม่เท่ากัน ลองเช็คและเลือกดูเลยค่ะ แล้วแต่ความสะดวกของแต่ละคน ไม่ขอโฆษณาบริษัทขายตั๋วละกันนะคะ)
นั่งรถไฟกินลมชมวิวไปเรื่อยๆ อยากบอกว่าจริงๆ เราสามารถเลื่อนกระจกลงมาได้ เพื่อให้ถ่ายรูปวิวได้ชัดเจน แต่เลื่อนลงแล้วก็ต้องปิดกลับด้วยนะคะ ไม่งั้นฮีทเตอร์ของรถไฟจะทำงานหนัก แล้วพนักงานจะเดินมาปรามว่าอย่าเปิดกระจก (ในขบวนที่นั่งไป มีชาวอินเดียกลุ่มหนึ่งเปิดกระจกค้างไว้เลย พนักงานรถไฟเลยเดินมาบอกว่าห้ามเปิดกระจก แอบเซ็งเล็กๆ ทำให้เราอดถ่ายรูปโดยไม่มีกระจกเลยอ่ะ)
นั่งรถไฟไปเรื่อยๆ จนไปเปลี่ยนขบวนที่สถานี Grindelwald (ใครไม่รีบก็เดินเล่นในเมืองนี้ได้ค่ะ) แต่เรามุ่งตรงต่อไปเลย ไม่ได้แวะเที่ยวชมเมือง นั่งรถไฟต่อไปเปลี่ยนขบวนอีกครั้งที่ Kleine Scheidegg
คราวนี้หล่ะค่ะ ได้ชื่นชมวิวหิมะจริงจัง มองไปทางไหนก็ขาวโพลนไปหมด
ระหว่างทาง เจ้าหน้าที่จะแวะอยู่ 2 จุดให้ชมวิว และเค้าก็จะรอคนทั้งขบวนให้ไปพร้อมๆ กัน เจ้าหน้าที่น่ารักมากค่ะ ยิ้มแย้มแจ่มใส และพูดคุยเป็นกันเอง (ที่สำคัญแอบหน้าตาดีด้วย เสียดายไม่ได้่ถ่ายรูปมา)
มาถึงแล้วค่ะ… อย่าลืมแวะรับพาสปอร์ตที่ตรงหน้า information ก่อนนะค่ะ เก็บไว้เป็นที่ระลึกว่ามาถึงแล้ว และเดินเข้าไปด้านขวามือ มีให้ประทับตราเหมือนตราตม.เลยค่ะ
เริ่มเดินเล่นกันเลยค่ะ ด่านแรกจะผ่านร้านขายของที่ระลึก แล้วเราก็เดินเล่นๆ ไปตามลูกศร จะมีเลขกำกับอยู่ว่าเราควรไปทางไหนก่อน
เดินหลงไปทาง Snow Fun ที่จริงๆ แล้วปิดค่ะ แต่เดินหลงไปจริงๆ ฮ่าๆ พอดีตอนแรกที่เดินเค้าไม่ได้เอาป้ายกั้นไว้ พอเดินกลับมาเพิ่งเห็นว่าเค้าเอาป้ายมาปิดว่าไม่ให้ไปค่ะ
แต่จากการหลงของเรา เลยทำให้ได้เล่นหิมะเพลินๆ คนน้อยๆ วิวงามๆ ดีจังเลย….
ท้องฟ้ายังคงปิดอยู่ค่ะ แสงแดดลอดมาบ้างมาเวลา แต่อากาศก็ไม่หนาวอย่างที่คิด ทำให้เผลอเล่นหิมะนานไปหน่อย กว่าจะเดินกลับเข้ามาด้านใน ก็เกือบครึ่งชั่วโมงเลย
จากจุดนี้ก็เดินต่อไปที่ Sphinx Terrace 3571 m แวะนั่งพัก ชมวิว จิบโกโก้ร้อนๆ และเช็คอินไปพลางๆ ตรงจุดนี้มี wifi free ให้ใช้ค่ะ เอาไว้เช็คอินได้เกร๋ๆ 🙂
นี่ไง….. ยอดจุงฟราว
วิวจากระเบียงค่ะ ตอนนี้อากาศเริ่มเย็นกว่าเดิม เพราะแดดหาย ลมแรงมาก ออกไปเดินถ่ายรูปได้แป๊ปเดียวต้องรีบกลับเข้ามาด้านใน
นั่งพักเหนื่อย ชมวิว สักพักก็เดินไปเที่ยวเล่นต่อที่ Ice Palace
แล้วก็เดินวนกลับไปยังจุดเริ่มต้น ว่าจะแวะออกไปถ่ายรูปกับธงสวิสโบกสบัดคู่กับยอดจุงฟราวด้านนอกซะหน่อย พอเดินออกไป… โอ้โห…. หิมะตก ลมแรง คนก็เยอะ เดินไปถึงธงไม่ไหวเลยค่ะ เลยได้รูปจากจุดนั้นมาแค่นี้
บ่ายคล้อย.. เลยตัดสินใจกลับดีกว่า อากาศยังไม่ดีขึ้นค่ะ ระหว่างนั่งรอรถรางมา ก็ส่งไปรษณีย์ไปพลางๆ ค่ะ ไปรษณียมีหลายราคาตั้งแต่ 1 CHF ขึ้นไป ค่าส่ง 1.60 CHF (ตู้ไปรษณีย์สีเหลืองค่ะ)
นั่งรถรางลงมาได้วิวแบบนี้ค่ะ ฟ้ามืด ฟ้าหม่น อากาศไม่เป็นใจ
ขากลับ… กลับอีกทางจากขามาก ตอนแรกคิดว่าจะขึ้น Schilthorn แต่พอเจออากาศแบบนี้ ขอบายแล้วกัน กลับไปเดินชอปปิ้งใน intelaken แทนดีกว่า
ระหว่างทางผ่านเมืองน่ารักๆ กลางหุบเขาค่ะ
เป็นอันจบทริปจุงฟราวไปอย่างประทับใจ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้พบเจอกับฟ้าใสๆ ก็ตาม