ระหว่างรอฝนหยุดตก เราตัดสินใจเข้าไปเที่ยว Camera Museum (ต้องขอขอบคุณรายการเทยเที่ยวไทย ที่ทำให้เรารู้จักมิวเซียมแห่งนี้)
ทำเลที่ตั้ง
ราคาตั๋วเข้าชม RM20 (ประมาณ 200 บาท) ตั๋วสามารถใช้เป็นส่วนลดสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ในจอร์จทาวน์หลายแห่ง อาทิ ร้านคาเฟ่แมวที่อยู่ติดกัน ร้านกาแฟของมิวเซียม เป็นต้น
มิวเซียมจะอยู่ชั้นบน ส่วนชั้นล่างจะเป็นจุดให้ถ่ายรูปเล่น ร้านขายของที่ระลึก และร้านกาแฟ
เข้าไปห้องแรก จะรวบรวมกล้องถ่ายรูปมากมายทั้งเก่าและใหม่ กล้องของเล่น กล้องกระดาษ ตั้งอยู่ในตู้โชว์ และวางด้านนอก ให้สามารถหยิบจับเล่นได้ มีกล้องหลากหลายมาก เห็นแล้วตื่นตาตื่นใจดีจัง นอกจากนี้ยังมีกล้อง 3d รุ่นแรกๆ รวมถึงกล้องรุ่นเดียวกันกับที่ใช้ในหนังดังๆ หรือกล้องที่ใช้สำหรับถ่ายราชวงศ์ในยุโรปสมัยอดีต และห้องถัดไปเป็นห้อง spy room จะเป็นกล้องถ่ายรูปของเหล่าบรรดานักสืบ สายลับ แบบที่เราเห็นๆ กันในหนังสมัยเจมส์บอนด์ กล้องตัวจิ๋วที่ไว้แอบถ่าย กล้องติดกับปืนสงคราม และอีกมากมาย
ส่วนถัดไป จะเป็นการเล่าประวัติความเป็นมาของกล้องแต่ละแบบตั้งแต่เริ่มต้มการคิดค้นกล้อง จนถึงยุคปัจจุบัน แอบเห็นด้วยว่าการถ่ายรูป selfie มีมาตั้งแต่สมัย 1920 โน่นแล้ว ขนาดกล้องตัวใหญ่มาก แต่ก็สามารถ selfie กันได้
โดยระหว่างทางก็จะมีห้องต่างๆ ให้เราเข้าไปเล่นกัน เช่น ห้อง Dark room เข้าไปแล้วนึกถึงเรื่อง shutter เลย เข้าไปก็เจอรูปอนันดาจริงๆ เพราะอนันดาเคยมาเป็นแขกของที่มิวเซียมนี้ ไม่รู้ว่าเชิญมา หรือมาเที่ยวเองค่ะ
จริงๆ มีอีกหลายห้อง แต่ไม่สามารถถ่ายรูปมาให้ดูกันได้ เพราะแต่ละห้องเป็นเหมือนการโชว์เทคนิคของกล้องค่ะ
พอเดินเที่ยวจบครบทุกห้องแล้ว (จริงๆ มิวเซียมเล็กมาก ทุกอย่างที่เล่ามาอยู่ภายในตึกแถวหนึ่งห้อง และตัวของมิวเซียมก็กินเนื้อที่แค่ชั้นเดียวเอง) ก็เดินลงมาที่ชั้น 1 ซึ่งเป็นส่วนของ double exposure cafe นั่นเอง แอบเห็นว่าฝนยังไม่หยุดตก เลยนั่งจิบกาแฟ กับทานเค้กรอฝนไปพลางๆ ละกัน
ความเท่ห์ของร้านคงหนีไม่พ้น แก้วกาแฟ ที่เป็นรูปเลนส์ มีขายเป็นของที่ระลึกด้วย มีทั้งของแคนอนแท้ และไม่แท้ ฮ่าๆ แต่ราคาก็ไม่ต่างจากที่บ้านเราเท่าไหร่ เลยไม่ได้ซื้ออะไรติดไม้ติดมือกลับบ้านมา
ข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ facebook ของ camera museum : https://www.facebook.com/PenangCameraMuseum